
ซากรืช เป็นเรือฝึกของกองทัพเรือโปรตุเกส ได้ชื่อว่าเป็นเรือใบที่สวยที่สุดในโลกลำหนึ่ง ลักษณะเป็นเรือใบสามเสา ตัวเรือยาว 90 เมตร ต่อเมื่อปี พ.ศ.2480 โดยอู่ต่อเรือบริษัท โบลห์ม แอนด์ วอสส์ ประเทศเยอรมนี และได้มาเป็นเรือชักธงแสดงสัญชาติโปรตุเกสเมื่อปี พ.ศ.2505ภารกิจของเรือลำนี้คือใช้สำหรับการฝึกภาคทางทะเลและฝึกอบรมลักษณะผู้นำในอนาคตของนายทหารเรือโปรตุเกส นอกเหนือจากการศึกษาภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่โรงเรียนนายเรือ

ความโดดเด่นของเรือซากรืช คือการชักใบและบังคับขับเคลื่อนด้วยกำลังคนเป็นหลัก แทนการใช้เทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งนัยหนึ่งเป็นการสืบสานประเพณีการเดินเรือแบบดั้งเดิมของประเทศที่เคยมี อดีตเป็นนักผจญภัยและเกรียงไกรด้านการเดินเรือ และเพื่อให้นักเรียนนายเรือได้เรียนรู้การเดินเรือและรู้จักท้องทะเลอย่าง ถึงแก่น นอกจากนี้ ซากรืชยังเป็นเหมือนโรงเรียนชีวิตให้เหล่านักเรียนนายเรือ ได้ฝึกพัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเอง ความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยวและศักยภาพในการตัดสินใจ ซึ่งแน่นอนว่าคุณสมบัติเหล่านี้คือสิ่งที่กองทัพเรือทุกแห่งแสวงหาในตัวของผู้นำ
หน้าที่สำคัญของเรือซากรืชอีกอย่างคือ การเป็นทูตสัญจรของโปรตุเกส ลอยลำไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศในโอกาสสำคัญๆทางประวัติศาสตร์ทั่ว โลก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า สำหรับชาติที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเพราะความเก่งกล้าเรื่องการเดินเรือ เมื่อครั้งอดีตนั้น คงไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นตัวแทนของโปรตุเกสได้ดีเท่านี้ ดังนั้น ไม่ว่าจะไปยังที่แห่งใด เรือซากรืชจึงถูกมองเสมือนเป็นทายาทของ วาสโก ดา กามา และเหล่านักเดินเรือสำรวจท่านอื่นๆของโปรตุเกส

นอกจากจะเต็มไปด้วยความหมายทางประวัติศาสตร์มากมายแล้ว ซากรืชยังได้ชื่อว่ามีความทันสมัยในแง่ของความเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม โดยได้รับรางวัล"บลู แฟลก" เป็นเครื่องการันตีเมื่อปีที่แล้วสำหรับการเดินทางมาแวะเยือนกรุงเทพพร้อมด้วยลูกเรือ 150 ชีวิตซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งนักเรียนนายเรือโปรตุเกส 35 นายและนักเรียนนายเรือต่างชาติอีก 15 นายนั้น ถือเป็นครั้งแรกของเรือซากรืช และเสมือนเป็นการโหมโรงการฉลองครบรอบ 500 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสยาม/ไทย-โปรตุเกส ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น