วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การศึกษาเปรียบเทียบและกำหนดอายุของ ปืนใหญ่หน้าจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯและปืนใหญ่อันดามัน

โดย พิทยะ ศรีวัฒนสาร
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
http://siamportuguesestudy.blogspot.com
ผู้เขียนได้รับการประสานขอให้ช่วยศึกษาตรวจสอบและกำหนดอายุปืนใหญ่กระบอกหนึ่ง พบจากการทำประมงในน่านน้ำของเขตจังหวัดระนอง  อันเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอันดามัน ซึ่งเรือโปรตุเกสเคยสัญจรค้าขายระหว่างคริสต์ศตวรรษที่16-19  ในเบื้องต้นนี้ทราบว่าเป็นปืนใหญ่แบบมีรางปืนเปิดท้ายของโปรตุเกส มีตราแผ่นดิน(Coat of Arm) และสัญลักษณ์ลูกโลก (?) หล่ออยู่เหนือลำกล้องใกล้ปากกระบอกปืน น้ำหนักชั่งได้ 437 กิโลกรัม  ยาว 2.5 เมตร
จากการศึกษาและเปรียบเทียบรูปแบบข้อมูลเพื่อกำหนดอายุของโบราณวัตถุดังกล่าวด้วยความสนใจ ผู้เขียนได้พบว่า รูปแบบของปืนดังกล่าวเป็นอาวุธที่หล่อขึ้นประมาณปลายคริสต์ศตวรรษที่16  ในประเทศไทยมีจัดแสดงไว้ที่หน้าจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯ จำนวน 2 กระบอก  โดยมีรูปแบบ ขนาด น้ำหนักและความยาวไล่เลี่ยกัน
ผลวิเคราะห์การเสื่อมสภาพจากภาพถ่ายจำนวนหนึ่งที่เจ้าของมอบให้ สามารถแลเห็นร่องรอยของการกัดกร่อนที่ตำแหน่งของตราแผ่นดินโปรตุเกส(Coat of Arm of Portuguese) ลึกลงไปในเนื้อโลหะ ส่งผลให้รอยนูนบนขอบตราดังกล่าวถูกลบจนเลือนไป นอกจากนี้รูปปราสาทห้าหลังของโปรตุเกสในตราแผ่นดินก็เริ่มจะกร่อนหายไปเช่นกัน ลักษณะการเสื่อมสภาพดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับอายุสมัยของอาวุธปืนกระบอกนี้

 
ภาพเปรียบเทียบจำแนกรูปแบบและวิวัฒนาการปืนใหญ่สเปน โปรตุเกสและชาติตะวันตกในย่านเมดิเตอร์เรเนียน ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.angelfire.com/ga4/guilmartin.com/Weapons.html


         ลำดับที่1 (จากซ้ายไปขวา)
ปืนแวร์ซูแบบสเปน-โปรตุเกส ตีขึ้นจากเหล็ก(Wrought-iron Verso) มีช่องรังเพลิงแบบถอดประกอบได้(Removable wrought-iron Chamber) ตีจากเหล็กเช่นกัน และมีแผ่นเหล็กเสียบกันรังเพลิงเคลื่อนที่ขณะยิง ตรงจุดศูนย์กลางของปืนมีแกนสำหรับหมุนยิง ส่วนท้ายปืนมีด้ามจับหมุนส่ายหาเป้า
        ลำดับที่2 (จากซ้ายไปขวา)
ปืนแวร์ซูแบบสเปน-โปรตุเกส ตีขึ้นจากเหล็ก(Wrought-Iron Verso)  มีอายุปลายคริสต์ศตวรรษที่15 ลักษณะคล้ายปืนแบบ Falconetes แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีช่องรังเพลิงแบบถอดประกอบได้ตีจากเหล็กเช่นกัน ยาวประมาณ 4.5 ฟุต ด้ามจับพัฒนาเป็นแท่งยาว
        ลำดับที่3 (จากซ้ายไปขวา)
ปืนแวร์ซูแบบสเปน-โปรตุเกส หล่อด้วยโลหะสำริด(Cast bronze Verso)แบบสเปน –โปรตุเกส ต้นคริสต์ศตวรรษที่16 รูปร่างค่อนข้างเทอะทะ มีรังเพลิงหล่อจากสำริด ครั้นถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่16 ก็พัฒนารูปทรงให้เพรียวยิ่งขึ้น


          ภาพสันนิษฐานจากเอกสารโบราณของปืนกึ่งปืนใหญ่สำริด (Half bronze cast Cannon) ของย่านเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก อายุสมัยต้นคริสต์ศตวรรษที่16 
 
           ตรงกลางปืนแบบเอสเมอริล (Esmeril) ของสเปน ลักษณะปากกระบอกปืน คล้ายปืนแบบฟาลังกี ( Farangi ) ของตุรกีและปืนมอสเชตตี ( Moschetti )ของชาวเวนิส 
 
ปืนของสเปนแบบมอเตเรตตี(Morterete) กลางคริสต์ศตวรรษที่16 คล้ายกับปืนแบบบอมบาเดลเล (Bombardelle) ของเวนิสและดาร์เบซี(Darbezy)ของตุรกี
 
ปืนใหญ่ขนาดย่อมของโปรตุเกสมีแกนหมุนยิงได้รอบทิศ(swivel gun)
อยู่ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ(The British Museum)
 ตราแผ่นดินโปรตุเกสและเครื่องคำนวณหาระยะทาง (armillary sphere) ด้านล่างของปากกระบอกปืน(ลายเส้นบนสัญลักษณ์ลูกโลกไขว้จากซ้ายมาขวา)

ปืนใหญ่โปรตุเกส พบที่Dhlo, Dambarare, Portuguese Settlement จากหนังสือ Market , Feira and Fort in Zimbabwe1693.

ปืนใหญ่หน้าจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯ
ได้รับการอนุรักษ์โดยการเคลือบสารกันการกัดกร่อนแล้ว


ภายขยายตราแผ่นดินโปรตุเกสและสัญลักษณ์ armillary sphere ของปืนใหญ่หน้าจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯ (ลายเส้นบนสัญลักษณ์ลูกโลกไขว้จากขวามาซ้าย)

ปืนใหญ่โปรตุเกสบรรจุท้ายพบจากการทำประมงในน่านน้ำอันดามัน
ปัจจุบันอยู่ที่ จ.ระนอง น้ำหนัก 437 กิโลกรัม

 ท้ายปืน


เดือยท้ายปืนสำหรับวางบนฐานยิง หรือ หมุนหาเป้า
ขอบปากกระบอกปืนอันดามัน หนา 1.5 นิ้ว

เส้นผ่าศูนย์กลางของปากกระบอกปืนอันดามันกว้าง 4 นิ้ว

ปากกระบอกปืนและภาพขยายสัญลักษณ์ตราแผ่นดินโปรตุเกส เหนือ armillary sphere บนปืนใหญ่จากน่านน้ำอันดามัน(ลายเส้นบนสัญลักษณ์ลูกโลกไขว้จากซ้ายมาขวา)

สัญลักษณ์ armillary sphere ใต้ตราแผ่นดินโปรตุเกส
สัญลักษณ์ armillary sphere ใต้ตราแผ่นดินโปรตุเกส

ภาพลายเส้นหยาบๆ สัญลักษณ์ armillary sphere ซึ่งหล่อนูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัดเจนใต้ตราแผ่นดินของปืนใหญ่โปรตุเกสศตวรรษที่17 ที่ป้อมเมืองดิว(Diu) อดีตอาณานิคมโปรตุเกสที่อินเดียตอนใต้(ลายเส้น สัญลักษณ์ลูกโลกไขว้จากซ้ายมาขวา)



ตัวอย่างเครื่องวัดระยะทางแบบ “armillary sphere”
เครื่องวัดระยะทางแบบ “armillary sphere” ชิ้นนี้มีลูกศรระบุทิศด้วย
 (http://crabapplelandscapexperts.blogspot.com/2012/06/sundials-and-armillary-spheres-as.html)

เครื่องมือคำนวณระยะทาง ( armillary sphere )ชิ้นนี้มีนาฬิกาดาราศาสตร์ประกอบมาด้วย
(Armillary sphere with astronomical clock http://en.wikipedia.org/wiki/Armillary_sphere)

การกัดกร่อนตราแผ่นดินโปรตุเกสจนขอบด้านข้างเสียรูป ขณะที่ดวงตรารูปปราสาทและสัญลักษณ์ความมั่งคั่งด้านในกรอบเลือนหายไปจนเกือบมองไม่เห็นด้านล่างเป็นสัญลักษณ์ armillary sphere ก็ถูกกัดกร่อนเช่นกัน

ตราแผ่นดินโปรตุเกส(Coat of arms of Portugal) ที่ใช้บนธงชาติโปรตุเกสปัจจุบันประกอบด้วยโล่พื้นแดงมีดวงตรารูปปราสาทสีทอง(ปิดประตู)ตั้งอยู่ 7 หลัง(Escutcheons)[1] ภายในกรอบพื้นสีขาวทำเป็นสัญลักษณ์รูปเหรียญ 5 อันบนพื้นโล่สีน้ำเงิน 5 โล่ อันหมายถึงสิทธิของกษัตริย์ในการผลิตเงินตราออกมาใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ด้านล่างของตราแผ่นดินมีสัญลักษณ์รูปเครื่องวัดมุมบนท้องฟ้า (the Armillary sphere หรือ the celestrial sphere ) ซึ่งใช้ในการคำนวณระยะทางระหว่างการเดินเรือ และกลายเป็นทั้งตัวแทนความสำคัญของโปรตุเกสในยุคแห่งการค้นพบ(the Age of Discovery ต้นคริสต์ศตวรรษที่15-17) และแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโปรตุเกสซึ่งมีดินแดนอยู่ทุกภูมิภาคในโลก[2]

 สรุป
          จากสภาพการสึกกร่อนที่ค่อนข้างรุนแรงนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า ปืนใหญ่โปรตุเกสจากอันดามันกระบอกนี้ มีอายุร่วมสมัยกับปืนใหญ่ที่หน้าจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯ คือ ประมาณปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16

การอ้างอิง
-พิทยะ ศรีวัฒนสาร, ตราแผ่นดินโปรตุเกสที่หน้าจั่วของจวนเอกอัครราชทูตโปรตุเกส ณ กรุงเทพฯ(Portuguese Coat of Arms at the Villa of the Ambassador of Portugal in Bangkok) อ้างใน http://siamportuguesestudy.blogspot.com/2011/05/portuguese-coat-of-arms-at-villa-of.html วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
.......................................................ปืนใหญ่หน้าสถานทูตโปรตุเกส2 http://siamportuguesestudy.blogspot.com/2011/03/2.html วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554
-JOHN FRANCIS GUILMARTIN JR., THE WEAPONS OF SIXTEENTH CENTURY WARFARE AT SEA, http://www.angelfire.com/ga4/guilmartin.com/Weapons.html
-DIU FORT CANNONS AND HOWITZER GUNS.wmv


[1] รูปปราสาท 7 หลัง บนตราแผ่นดินโปรตุเกสใช้มาตั้งแต่สมัยกษัตริย์เซบัสเตียนที่1 (Sebastiao I,  1557-1578) ดู http://en.wikipedia.org/wiki/Sebastian_I
[2] http://en.wikipedia.org/wiki/Coat_of_arms_of_Portugal

4 ความคิดเห็น:

  1. กำลังจะถูกทำลายหรือทำลายไปแล้วครับ จะทันมั้ยเนี่ยะ

    https://www.facebook.com/profile.php?id=100002229449234&sk=photos&collection_token=100002229449234%3A2305272732%3A69&set=a.614572901960352.1073742791.100002229449234&type=1

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ความคิดของคนเห็นแก่ได้ ไม่คิดถึง ประวัติศาส เพื่อไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

    ตอบลบ