http://www.loc.govrrhispanicportam/ ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
บ็อกเซอร์(C.R. Boxer)ระบุว่า ปัจจัยสำคัญ 4 ประการที่ผลักดันให้โปรตุเกสออกสำรวจทางทะเลมุ่งสู่เอเชีย คือ การเผยแพร่ศาสนา การแสวงหาทองคำแห่งกินี การค้นหาดินแดนของกษัตริย์เพรสเตอร์ จอห์น(King Prester John) และการแสวงหาเครื่องเทศ
ภาพปกหนังสือ ชื่อ The Portuguese Seaborne Empire, 1415-1825 โดย C. R. Boxer
(อ้างจาก http://www.worldcat.org/title/portuguese-seaborne-empire-1415-1825/ ขอขอบคุณอย่างยิ่ง)
การที่โปรตุเกสเป็นราชอาณาจักรแห่งเดียวในยุโรปที่มีความมั่นคงเป็นปึกแผ่น ส่งผลให้ประสบความสำเร็จทั้งด้านการสำรวจทางทะเล การเดินเรือและการแสวงหาอาณานิคม ขณะที่สเปน อิตาลี อังกฤษและฝรั่งเศสกำลังประสบปัญหายุ่งยากภายใน ความเคลื่อนไหวของโปรตุเกสได้รับการสนับสนุนจากพระสันตโองการ(Papal Decree)ของพระสันตปาปาโรมานุส(Pope Romanus) ลงวันที่ 8 มกราคม ค.ศ.1455 (พ.ศ.1998)รับรองสิทธิในการผูกขาดทางการค้าเหนือดินแดนที่พบใหม่จากการสำรวจทางทะเลภายใต้เงื่อนไขที่ห้ามโปรตุเกสขายอาวุธแก่ชนชาติศัตรูของศาสนาคริสต์
เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(Christopher Columbus)แล่นเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปพบหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของทวีปอเมริกา และประกาศว่าหมู่เกาะดังกล่าวเป็นดินแดนของสเปน ทำให้โปรตุเกสกับสเปนทำสงครามทางทะเลทุกครั้งที่มีความขัดแย้งกัน จึงเกิดสัญญาทอร์เดสซิลลัส(Tordesillas)ในพ.ศ.2037(ค.ศ.1494) แบ่งสิทธิการสำรวจทางทะเลโดยขีดเส้นตามแนวยาวเหนือ-ใต้ของหมู่เกาะเคป เวิร์ด(Cape Verde) ระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร แล้วกำหนดให้ซีกโลกด้านตะวันตกเป็นสิทธิของสเปน ส่วนซีกโลกด้านตะวันออกเป็นสิทธิของโปรตุเกส
ชาวโปรตุเกสคนแรกที่เดินทางมาถึงอินเดียเป็นนักแสวงโชคชื่อ จูอาว เปรึช ดึ กูวัลเญา(João Peres de Covalhão) เขาได้รับเงินสนับสนุนจากกษัตริย์ดอง จูอาวที่2(Dom João II)แห่งโปรตุเกส เพื่อค้นหาดินแดนของกษัตริย์เพรสเตอร์ จอห์นและแหล่งเครื่องเทศ กูวัลเญาลงเรือของชาวมุสลิมไปถึงเมืองคันนานอร์(Cannanore)บนฝั่งมะละบาร์ในค.ศ.1487(พ.ศ.2044) และนำตัวอย่างเครื่องเทศกลับไปพร้อมกับรายงานว่าควรขยายการค้าทางเรือมายังฝั่งตะวันออกโดยมุ่งหน้ามายังเมืองกาลิกัต
วาชกู ดา กามา(Vasco da Gama)นักเดินเรือชาวโปรตุเกสเมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส(Christopher Columbus)แล่นเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปพบหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของทวีปอเมริกา และประกาศว่าหมู่เกาะดังกล่าวเป็นดินแดนของสเปน ทำให้โปรตุเกสกับสเปนทำสงครามทางทะเลทุกครั้งที่มีความขัดแย้งกัน จึงเกิดสัญญาทอร์เดสซิลลัส(Tordesillas)ในพ.ศ.2037(ค.ศ.1494) แบ่งสิทธิการสำรวจทางทะเลโดยขีดเส้นตามแนวยาวเหนือ-ใต้ของหมู่เกาะเคป เวิร์ด(Cape Verde) ระยะทางประมาณ 1,800 กิโลเมตร แล้วกำหนดให้ซีกโลกด้านตะวันตกเป็นสิทธิของสเปน ส่วนซีกโลกด้านตะวันออกเป็นสิทธิของโปรตุเกส
ชาวโปรตุเกสคนแรกที่เดินทางมาถึงอินเดียเป็นนักแสวงโชคชื่อ จูอาว เปรึช ดึ กูวัลเญา(João Peres de Covalhão) เขาได้รับเงินสนับสนุนจากกษัตริย์ดอง จูอาวที่2(Dom João II)แห่งโปรตุเกส เพื่อค้นหาดินแดนของกษัตริย์เพรสเตอร์ จอห์นและแหล่งเครื่องเทศ กูวัลเญาลงเรือของชาวมุสลิมไปถึงเมืองคันนานอร์(Cannanore)บนฝั่งมะละบาร์ในค.ศ.1487(พ.ศ.2044) และนำตัวอย่างเครื่องเทศกลับไปพร้อมกับรายงานว่าควรขยายการค้าทางเรือมายังฝั่งตะวันออกโดยมุ่งหน้ามายังเมืองกาลิกัต
การที่วาชกู ดา กามา (Vasco da Gama) เดินทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮปสำเร็จและเปิดการติดต่อกับเมืองท่าต่างๆตามชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก โดยความช่วยเหลือจากคนนำร่องชาวอาหรับชื่อ อาเหม็ด-อิบน์-มัดยิด(Ahmed-ibn-madjid) ทำให้โปรตุเกสสามารถเดินเรือสู่เมืองกาลิกัตศูนย์กลางการค้าพริกไทบนดินแดนชายฝั่งมะละบาร์ได้ในพ.ศ.2041(ค.ศ.1498)และค้าขายกับชาวเอเชียโดยตรง ถือเป็นความสำเร็จของโปรตุเกสในช่วง 43 ปีของการออกสำรวจทางทะเลหลังจากที่ได้รับสิทธิในการผูกขาดการค้าทางทะเลจากการสนับสนุนของพระสันตปาปาโรมานุส(Pope Romanus) หรือ 4 ปี หลังจากการทำสัญญาทอร์เดสซิลลัส(Tordesillas)กับสเปน ขณะเดียวกันโปรตุเกสก็พบคำตอบว่าอาณาจักรของกษัตริย์เพรสเตอร์ จอห์น เป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆของชาวแอฟริกันเอธิโอเปีย ซึ่งไม่มีทั้งอำนาจและราชทรัพย์ตามที่เล่าลือกันในนิยายปรัมปรา
กษัตริย์ดอง จูอาวที่ 2 แห่งโปรตุเกสค.ศ.1481-1495 (ภาพจากwikipedea.com ขอขอบคุณอย่างยิ่ง)
อินเดียเป็นดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากการแผ่ขยายอำนาจของชาวตะวันตกเข้าสู่เอเชียเป็นอย่างมากและก่อนประเทศอื่นๆในซีกโลกตะวันออกเพราะเป็นแหล่งอารยธรรมใหญ่เพียงแห่งเดียวในทวีปที่อยู่ภายใต้การปกครองโดยตรงของต่างชาติ ศรีสุรางค์ พูนทรัพย์ กล่าวว่า อิทธิพลของตะวันตกกระทบต่อชีวิตและความคิดของชาวอินเดียอย่างลึกซึ้งและยาวนาน เนื่องจากมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศตะวันตกมาช้านาน พ่อค้าอินเดียเคยผูกขาดการค้าทางทะเลทั่วน่านน้ำเอเชียมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่2
เมื่อชาวอาหรับเริ่มเข้ามาค้าขาย พวกเขาก็กลายเป็นคู่แข่งของชาวอินเดียในการค้าทางทะเล โดยเฉพาะการประกาศศาสนาอิสลามเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวอาหรับรวมตัวก่อตั้งจักรวรรดิอาหรับในคริสต์ศตวรรษที่7 การค้าทางทะเลระหว่างอาหรับกับอินเดียยิ่งคึกคักมากขึ้นเมื่อคอลีฟะห์โอมาร์(Kalifa Omar)ตั้งสถานีการค้าที่เมืองบัสรา(Basra) ชัตต์-อัล-อาหรับ(Shatt-al-Arab)และหมู่เกาะโซโครตา(Socrotas)
ครั้นถึงราวคริสต์ศตวรรษที่8 ชาวอาหรับก็เดินเรือมาสู่อินเดียมากขึ้น โดยไม่มีความคิดในการยึดครองดินแดน พ่อค้าอินเดียเลิกค้าขายทางทะเลและยอมรับชาวอาหรับเป็นพ่อค้าคนกลาง จึงมิได้ติดต่อโดยตรงกับชาวตะวันตกอีกจนกระทั่งวาชกู ดา กามาค้นพบเส้นทางสู่อินเดีย
เมื่อชาวอาหรับเริ่มเข้ามาค้าขาย พวกเขาก็กลายเป็นคู่แข่งของชาวอินเดียในการค้าทางทะเล โดยเฉพาะการประกาศศาสนาอิสลามเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวอาหรับรวมตัวก่อตั้งจักรวรรดิอาหรับในคริสต์ศตวรรษที่7 การค้าทางทะเลระหว่างอาหรับกับอินเดียยิ่งคึกคักมากขึ้นเมื่อคอลีฟะห์โอมาร์(Kalifa Omar)ตั้งสถานีการค้าที่เมืองบัสรา(Basra) ชัตต์-อัล-อาหรับ(Shatt-al-Arab)และหมู่เกาะโซโครตา(Socrotas)
ครั้นถึงราวคริสต์ศตวรรษที่8 ชาวอาหรับก็เดินเรือมาสู่อินเดียมากขึ้น โดยไม่มีความคิดในการยึดครองดินแดน พ่อค้าอินเดียเลิกค้าขายทางทะเลและยอมรับชาวอาหรับเป็นพ่อค้าคนกลาง จึงมิได้ติดต่อโดยตรงกับชาวตะวันตกอีกจนกระทั่งวาชกู ดา กามาค้นพบเส้นทางสู่อินเดีย
อาจารย์หนูสนใจมากเลยอ่ะ บทความนี้
ตอบลบอยากเรียนโบราณน่าจะสนุกดี
อยากทราบว่า เครื่องหมายที่อยู่บนใบเรือ คล้ายๆกับไม้กางเขนนั่นคือสัญลักษณ์อะไรหรอคะ มีความหมายไหม?
ตอบลบคิออะไร
ตอบลบเป็นเวลานานที่ฉันมองหาวิธีสร้างรายได้บนอินเทอร์เน็ตและเพื่อนคนหนึ่งของฉันทุ่มเทให้กับวิธีการที่เขาใช้มานาน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉันที่จะหาแหล่งข้อมูลที่คุณสามารถสร้างรายได้ หากคุณเล่นในคาสิโนออนไลน์อยู่แล้วคุณควรเลือกเว็บไซต์ที่ดีที่สุด - https://www.gclub-lnwasia99.com/bacc8888/ ขอบเขตที่ไซต์นี้ทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนี่คือสิ่งที่เป็นทางการซึ่งทำงานมานานมาก การปฐมนิเทศผู้มาเยี่ยมทำให้เขาไปสู่ผู้นำ ดังนั้นจึงแทบไม่มีความเสี่ยงสำหรับคุณ แน่นอนว่าเมื่อคุณมีแนวทางที่ไม่ถูกต้องผลลัพธ์ก็จะเหมาะสม การเล่นในคาสิโนออนไลน์ - ก่อนอื่นอย่าลืมว่าคุณต้องเข้าหาด้วยความใจเย็น
ตอบลบ