แปลโดย พิทยะ ศรีวัฒนสาร
Lesser State Emblem of the Russian Empire /final version, 1883.(ขอขอบคุณข้อมูลจาก en.wikipedia.com)
ตราของราชวงศ์โรมานอฟและตราของสหพันธรัฐรัสเซีย(ปัจจุบัน)ล้วนมีพัฒนาการมาจากตราของจักรวรรดิรัสเซีย ซึ่งดัดแปลงมาจากตราแผ่นดินในสมัยของพระเจ้าอีวานที่ 3 ( Ivan III (ค.ศ.1462–1505)ในสมัยกลาง รูปแบบของสีก็ใช้มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่15 ขณะที่ลักษณะนกอินทรีนั้นสามารถกำหนดอายุย้อนกลับไปได้ถึงสมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช (Peter the Great, 1682-1725)
สัญลักษณ์นกอินทรี2หัวและรูปบุคคลขี่ม้าสังหารมังกรหรืองูใหญ่นั้นถูกใช้มาก่อนรัชสมัยของปีเตอร์มหาราช โดยมีการอธิบายอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นของนักบุญจอร์จ (Saint George) จนกระทั่งในปีค.ศ.1730 จึงมีพระบรมราชโองการประกาศว่าบุคคลดังกล่าวคือ นักบุญจอร์จผู้นำชัยชนะ ("Saint George the Victory bearer") และรูปนี้บางครั้งก็ถูกอธิบายว่าเป็นดยุ๊คผู้ยิ่งใหญ่แห่งมอสโคว์(the Grand Duchy of Muscovy) และถูกใช้เป็นตราของเมืองมอสโคว์อย่างเป็นทางการสืบมา
สัญลักษณ์นกอินทรี2หัวเริ่มใช้โดยกษัตริย์ อีวานที่3 หลังจากทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงโซเฟีย พาลีโอลอก(Sophia Paleologue) แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ เมื่อ12 พฤศจิกาย ค.ศ. 1472 โดยเสด็จลุงของเจ้าหญิงทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ อนทรี 2 หัว เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ซึ่งมีพื้นที่ทั้งในโลกตะวันออกและโลกตะวันตก นอกจากนี้อินทรี 2 หัวยังอาจหมายถึงโลกทางอาณาจักรและโลกทางศาสนาด้วยเช่นกัน หลังการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์(ค.ศ.1453) กษัตริย์อีวานทรงถือว่ามอสโคว์เป็นที่มั่นสุดท้ายของศาสนาคริสต์อันบริสุทธิ์ และถือว่ามอสโคว์เป็นจักรวรรดิโรมที่3(Third Rome) ดังนั้นหลังค.ศ.1497 อินทรี 2 หัวจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากษัตริย์รัสเซียมีความยิ่งใหญ่เทียบเท่าจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากกษัตริย์ของจักรวรรดิดังกล่าวเคยประกาศตนเป็นผู้สืบทอดจารีตของศาสนาคริสต์แบบโรมัน( the Christian Roman tradition) บนหน้าบันที่พระราชวังเครมลินก็มีตราแผ่นดินรูปนกอินทรี 2หัวบนพื้นแดงติดตั้งอยู่
ในสมัยราชวงศ์โรมานอฟ(ค.ศ.1613-1917) ตรงกับรัชสมัยของกษัตริย์มิคาอิล(Mikhail I Fyodorovich Romanovค.ศ.1596-1645) อินทรี2หัวก็ถูกตกแต่งด้วยมงกุฎ 3 องค์เป็นครั้งแรกในปีค.ศ.1625 โดยมีการสันนิษฐานว่า อาจหมายถึงการยึดครองอาณาจักร 3 แห่ง ได้แก่ คาซาน อัสตราคานและไซบีเรีย(kingdoms of Kazan, Astrakhan, and Siberia) หรืออาจหมายถึงการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาณาจักรรัสเซียทั้งปวง ได้แก่ รัสเซีย ยูเครนและเบลารุส) หรืออาจหมายถึงความเป็นจักรวรรดิโรมที่3ก็ได้ ส่วนสัญลักษณ์ของคธา(และรูปโลกในอุ้งเล็บของนกอินทรี หมายถึง ความมีอธิปไตยและและความมีอำนาจ
สัญลักษณ์นกอินทรี2หัวและรูปบุคคลขี่ม้าสังหารมังกรหรืองูใหญ่นั้นถูกใช้มาก่อนรัชสมัยของปีเตอร์มหาราช โดยมีการอธิบายอย่างไม่เป็นทางการว่าเป็นของนักบุญจอร์จ (Saint George) จนกระทั่งในปีค.ศ.1730 จึงมีพระบรมราชโองการประกาศว่าบุคคลดังกล่าวคือ นักบุญจอร์จผู้นำชัยชนะ ("Saint George the Victory bearer") และรูปนี้บางครั้งก็ถูกอธิบายว่าเป็นดยุ๊คผู้ยิ่งใหญ่แห่งมอสโคว์(the Grand Duchy of Muscovy) และถูกใช้เป็นตราของเมืองมอสโคว์อย่างเป็นทางการสืบมา
สัญลักษณ์นกอินทรี2หัวเริ่มใช้โดยกษัตริย์ อีวานที่3 หลังจากทรงอภิเษกกับเจ้าหญิงโซเฟีย พาลีโอลอก(Sophia Paleologue) แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ เมื่อ12 พฤศจิกาย ค.ศ. 1472 โดยเสด็จลุงของเจ้าหญิงทรงเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ อนทรี 2 หัว เป็นสัญลักษณ์ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ซึ่งมีพื้นที่ทั้งในโลกตะวันออกและโลกตะวันตก นอกจากนี้อินทรี 2 หัวยังอาจหมายถึงโลกทางอาณาจักรและโลกทางศาสนาด้วยเช่นกัน หลังการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์(ค.ศ.1453) กษัตริย์อีวานทรงถือว่ามอสโคว์เป็นที่มั่นสุดท้ายของศาสนาคริสต์อันบริสุทธิ์ และถือว่ามอสโคว์เป็นจักรวรรดิโรมที่3(Third Rome) ดังนั้นหลังค.ศ.1497 อินทรี 2 หัวจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากษัตริย์รัสเซียมีความยิ่งใหญ่เทียบเท่าจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากกษัตริย์ของจักรวรรดิดังกล่าวเคยประกาศตนเป็นผู้สืบทอดจารีตของศาสนาคริสต์แบบโรมัน( the Christian Roman tradition) บนหน้าบันที่พระราชวังเครมลินก็มีตราแผ่นดินรูปนกอินทรี 2หัวบนพื้นแดงติดตั้งอยู่
ในสมัยราชวงศ์โรมานอฟ(ค.ศ.1613-1917) ตรงกับรัชสมัยของกษัตริย์มิคาอิล(Mikhail I Fyodorovich Romanovค.ศ.1596-1645) อินทรี2หัวก็ถูกตกแต่งด้วยมงกุฎ 3 องค์เป็นครั้งแรกในปีค.ศ.1625 โดยมีการสันนิษฐานว่า อาจหมายถึงการยึดครองอาณาจักร 3 แห่ง ได้แก่ คาซาน อัสตราคานและไซบีเรีย(kingdoms of Kazan, Astrakhan, and Siberia) หรืออาจหมายถึงการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาณาจักรรัสเซียทั้งปวง ได้แก่ รัสเซีย ยูเครนและเบลารุส) หรืออาจหมายถึงความเป็นจักรวรรดิโรมที่3ก็ได้ ส่วนสัญลักษณ์ของคธา(และรูปโลกในอุ้งเล็บของนกอินทรี หมายถึง ความมีอธิปไตยและและความมีอำนาจ
ถ้วยสุราแบบรัสเซียทำด้วยหินหยกเขียว ด้ามเป็นตราราชวงศ์โรมานอฟ สลักลายลงยาสีต่างๆ ประดับเพชร ทับทิมและไข่มุกฝีมือช่างของฟาแบร์เช่ ชื่อ Henrik Wigstromสันนิษฐานว่าเป็นของถวายที่ระลึกในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนรัสเซีย ในค.ศ. 1897 (ภาพอ้างจาก เรือนไทย.คอม ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง)
ตราราชวงศ์โรมานอฟ สลักลายลงยาสีต่างๆ ประดับเพชร ทับทิมและไข่มุก อ้างจาก เรือนไทย.คอม (ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง) ตราแผ่นดินของสาธารณรัฐรัสเซีย(The coat of arms of the Russian Federation)ในปัจจุบันเริ่มใช้ตั้งแต่ค.ศ.1993 แม้จะมีการปกครองแบบสาธารณรัฐแล้วแต่ก้ยังคงรักษารูปแบบตราสัญลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้
(ขอขอบคุณWikipedia)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น